Last updated: 15 ธ.ค. 2561 | 699 จำนวนผู้เข้าชม |
หากมีโอกาสอ่านชื่อภาพในงาน นิทรรศการภาพถ่ายใดๆ
เราจะพบว่า มีจำนวนมากที่ตั้งชื่ออย่าง เฉพาะเจาะจง ช่วยทำให้เราเข้าใจในสิ่งที ่เจ้าของผลงานต้องการสื่อออ กมา แม้อาจไม่ได้สื่อทั้งหมดที่ คิด แต่ก็ช่วยให้ผู้ชม เข้าใจในแนวหรือเส้นทางที่
ศิลปินนั้นๆคิด ทำจนออกมาจนเป็นผลงาน...
บางงานอาจเขียนชื่อ สถานที่ที่ถ่าย ช่วยให้เราทราบพื้นที่ที่เจ ้าของผลงานได้ยืนอยู่ในขณะน ั้น
มีบางงานที่อาจสร้างความงงง วยให้กับผู้ชม เพราะชื่อภาพ อาจมีเพียงหมายเลข 1 2 3 หรือ ชื่อชุด แล้วตามด้วย 1 2 3
เช่น รุกขะเทวะ 1 รุกขะเทวะ 2 รุกขะเทวะ 3 เป็นต้น หรือ หนักไปกว่านั้น มีชื่อภาพ ที่ระบุว่า ไม่มีชื่อภาพ (untitle) !
เหตุใด จึงเป็นเช่นนั้น มีเหตุผลอธิบายได้มากมาย แต่ขอแบ่งปันประสบการณ์บางส่วนในการตั้งชื่อภาพที่ผมได ้เจอ คือ
การมีชื่อภาพ สื่อความหมาย หรือสถานที่ ตามที่พูดมาตอนต้น มีข้อดีที่เด่นสุด คือ มันช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจค่อ นข้างตรง หรือ ช่วยชี้ขอบเขตกรอบความคิดให ้ใกล้เคียงแนวความคิดของผู้ สร้างงานได้ดี สรุปง่ายๆ คือ มันทำให้ "ชัดเจน" ขึ้น
แต่ทันทีที่ชื่อภาพ เสมือนไม่มี เช่น รุกขะเทวะ 1 ก็คือ ตรงข้ามกับกรณีแรก คือ มันออกไปทาง "ไม่ชัด" นั่นเอง ฟังดูคล้ายข้อเสีย
แต่จุดเด่นหนึ่ง ของความไม่ชัด ก็คือ ผู้ชมสามารถสร้างกรอบความคิ ดของตัวเอง แล้วรู้สึกไปกับสิ่งนั่นๆเอ ง สร้างความรู้สึก ความคิด อารมณ์ขึ้น ที่ทั้งอาจเหมือนหรือแตกต่า งจากผู้สร้างผลงานได้... อาจมากกว่าหรือถึงขั้นไม่มี เลยก็ได้
ส่วนตัว เคยทำมาแล้วทั้งสองแบบ แต่ในผลงาน รุกขะเทวะ นี้
ผมคิดว่า เมื่อผู้ชมได้อ่านแนวคิดและ ได้ชมผลงาน...การอ่านชื่อผล งานที่ไม่ชัดเจน น่าจะเป็นข้อดีมากกว่า เพราะจะมีข้อจำกัดน้อยในการ รู้สึก คิด กระตุ้นจิตใต้สำนึกของผู้ชม .....แม้กระทั่งผมเองที่สร้ างผลงาน ดูแต่ละครั้ง ยังรู้สึกได้ต่างกันบ้าง สร้างเสน่ห์ไปอีกแบบครับ...
24 พ.ค. 2565
9 ก.ย. 2566